ศาสตราจารย์ หลวงสมานวนกิจ มีนามเดิมว่า เจริญ สมานวนกิจ เกิดเมื่อวันที่
19 ธันวาคม พ.ศ. 2439 ที่จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมจากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
และโรงเรียนข้าราชการพลเรือน สอบแข่งขันชิงทุนกรมป่าไม้ ไปศึกษาวิชาป่าไม้ที่โรงเรียนเบอร์มาฟอเรสต์
ประเทศพม่า เมื่อสำเร็จการศึกษาได้เข้ารับราชการในกรมป่าไม้ตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2462 ดำรงตำแหน่งรองผู้ช่วยเจ้ากรมป่าไม้ ในปี พ.ศ. 2484 ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยหัวหน้ากองค้นคว้าของป่า
ต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ตั้งแต่วันที่
1 มกราคม พ.ศ. 2493 จนถึงวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2494
ในปี พ.ศ. 2478 จัดตั้งโรงเรียนป่าไม้ขึ้นที่จังหวัดแพร่ เป็นที่อบรมสั่งสอนกุลบุตรไทยในวิชาการป่าไม้ทั้งในทางทฤษฎีและ
ทางปฎิบัติ สำหรับจะได้เป็นพนักงานป่าไม้ในภายหน้า โรงเรียนแห่งนี้ได้เจริญมาเป็นลำดับ
และได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนวนศาสตร์ ในปี พ.ศ. 2481 และเข้ารวมเป็นสาขาหนึ่งของวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
บางเขน ต่อมาในปี พ.ศ. 2486 รัฐบาลจัดตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ขึ้น
โรงเรียนวนศาสตร์โอนจากสังกัดกรมป่าไม้เข้ามาเป็นคณะหนึ่งในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
คือคณะวนศาสตร์ในปัจจุบัน นอกจากนั้นท่านยังได้ส่งเสริมด้านประชาสัมพันธ์ให้มีนิตยสาร
ชื่อ วนศาสตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2479 เพื่อเป็นหนังสือเผยแพร่กิจการและความรู้ในการป่าไม้
ในระหว่างพนักงานป่าไม้ด้วยกันและแก่บุคคลภายนอก
ในปี พ.ศ. 2493 เมื่อดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ในขณะนั้น ได้มี กิจการกับต่างประเทศทั้งการส่งข้าราชการ
ไปประชุมในการประชุมระหว่างประเทศ ไปศึกษาและดูงาน และมีผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศเข้ามาดำเนินการช่วยเหลือแนะนำงาน
ทางวิชาการในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2494 มีประกาศกระทรวงเกษตราธิการ
เรื่องกำหนดอัตราค่าภาคหลวงไม้สัก ลงวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2494 กรมป่าไม้โดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและคณะรัฐมนตรี
ได้ให้สัมปทานป่าไม้แม่อิง จังหวัดเชียงราย แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
โดยมอบหมายให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เป็นผู้จัดทำ และแบ่งผลกำไรให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
30 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณปีละ 3 ล้านบาท ต่อมามีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ กรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กระทรวงเกษตราธิการ
ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2496 เป็นต้นไป จะเห็นได้ว่าท่านเป็นผู้ที่ทั้งอุทิศเวลาและบุกเบิกงานป่าไม้
ตลอดจนสนใจสร้างโรงเรียนป่าไม้เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้ และพัฒนากิจการป่าไม้ของประเทศไทยให้เจริญทัดเทียมอารยประเทศมาโดยลำดับ
ทำให้กิจการป่าไม้ไทยทันสมัยจนถึงปัจจุบัน
ภายหลังจากที่โอนมาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ กรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้วนั้น
มีความสนใจเรื่องการเลี้ยงผึ้งและเปิดเป็นวิชาการสาขาใหม่ขึ้นในแผนกเกษตรศาสตร์
ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยสั่งผึ้งพันธุ์ต่างประเทศจากประเทศออสเตรเลียและอิตาลี
มีนิสิตเข้าศึกษา 42 คนและบุคคลทั่วไปสมัครเรียนกว่าร้อยคน เจ้าหน้าที่วิชาการเลี้ยงผึ้งได้จัดพิมพ์เอกสารคำชี้แจงเรื่องการเลี้ยงผึ้ง
2 ครั้งๆ ละ 1,000 เล่ม มีผู้สนใจติดต่อขอมาจนหมดสิ้น ในครั้งสุดท้ายได้จัดการพิมพ์หนังสือคู่มือการเลี้ยงผึ้ง
ซึ่งศาสตราจารย์หลวงสมานวนกิจได้เรียบเรียงขึ้น มีประชาชนติดต่อขอซื้อตลอดมา
และท่านได้ส่งบทความไปออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงในการเลี้ยงผึ้ง
5 ครั้ง และในการแสดงวิทยาศาสตร์ของสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย
ทางมหาวิทยาลัยก็ได้นำผึ้งไปร่วมแสดงด้วย ในการเลี้ยงผึ้งครั้งนี้
เจ้าหน้าที่ทางสาขาวิชาสวนผลไม้ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากที่ได้ทำการเลี้ยงผึ้งแล้ว
ปรากฏว่าผลไม้ติดลูกมากกว่าแต่ก่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งส้มโอ ติดผลเพิ่มขึ้นจาก
290 ผล เป็น 743 ผล สรุปว่า ทั้งนี้ผึ้งน่าจะมีส่วนช่วยเหลือให้ส้มติดผลดกขึ้น
|