วันพุธที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๑๓

เวลา ๑๖.๐๐ น. เสด็จพระราชดำเนินโดยรถพระที่นั่งจิ๊ป ซึ่งทรงขับเองไปยังผาแม้วแล้วเสด็จพระราชดำเนินตามทางอันชันดิ่งระยะประมาณ ๒ ก.ม. ไปยังบ้านแม้วดอยปุย... พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรสวนของเผ่าแม้ว ซึ่งมีลิ้นจี่ และท้อเป็นพื้น นายสืบศักดิ์ นวจินดาแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แสดงการต่อกิ่งท้อถวายทอดพระเนตร โดยใช้ท้อ พันธุ์ต่างประเทศ (peach) ต่อบนกิ่งท้อพื้นเมือง เสด็จ ฯ ทอดพระเนตรต้นท้อซึ่งชาวเขาแม้วเลียนแบบต่อกิ่งด้วยวิธีดังกล่าว เมื่อปีกลาย และขณะนี้ก็กำลังออกผล เป็นท้อต่างประเทศขนาดใหญ่ รสหวานฉ่ำ ทรงเห็นว่าการทำสวนผลไม้เมืองหนาว เช่น ท้อ พลับ สาลี่ แอปเปิล ฯลฯ เป็นเรื่องสำคัญในการแก้ปัญหาชาวเขา จึงพระราชทานเงินยืม ๒๔๐,๐๐๐ บาท แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อใช้ในการทดลองและชดเชย ค่าต้นผลไม้เมืองหนาว ซึ่งมีเอกชนคือ นายปรีชา เธียรประสิทธิ์ ริเริ่มปลูกเอาไว้แล้วบนดอยปุย ต่อไปเสด็จฯ ทอดพระเนตรสวนแห่งนี้ ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ใช้บางส่วนแล้วสำหรับศึกษาวิจัยกับขยายพันธุ์ต้นผลไม้เมืองหนาว และจะขยายงานเป็นศูนย์ของโครงการเกษตรที่สูงอีกด้วย มีพระราชกระแสว่าควรจะเริ่มขยายพันธุ์ต้นมะขี้หนู คือ ต้นแอปเปิลป่าพื้นเมือง เพราะสามารถจะต่อกิ่งกับแอปเปิลต่างประเทศได้ ดังที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ทดลองมาแล้ว
(เสด็จฯ ดอย : จดหมายเหตุรายวันคราประทับภูพิงคราชนิเวศน์ เชียงใหม่ พ.ศ. ๒๕๑๓ หน้า ๕-๖)

เสด็จฯ ทอดพระเนตรสวนผลไม้เมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งพระราชทานเงินทุนสนับสนุน
(ภาพและคำบรรยายภาพจาก เสด็จดอยปุย)
สวนผลไม้เมืองหนาวคือ "สวนสองแสน" ซึ่งตั้งชื่อตามจำนวนเงินที่ได้รับพระราชทานในครั้งนั้น

ที่บ้านแม้วดอยปุยทอดพระเนตรนายสืบศักดิ์ นวจินดา อาจารย์ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กำลังตัดกิ่งท้อพื้นเมืองก่อนที่จะเอากิ่งพันธุ์ต่างประเทศมาต่อ
(ภาพและคำบรรยายภาพจาก เสด็จดอยปุย)

ทศวรรษที่ ๓